ดอกยางรถยนต์นั้นมีไว้ เพื่อยึดเกาะถนนและรีดน้ำขณะขับรถเมื่อถนนเปียก เพื่อให้หน้ายางนั้นสัมผัสพื้นถนนทำให้การเดินทางนั้นสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและไม่ลื่นจนออกถนน นอกจากนี้ยางยังทำหน้าที่กระจายน้ำหนักให้รถยนต์ โดยหน้ายางจะทำหน้าที่กระจายแรงทั้งหมดไปยังทิศทางต่างๆ สู่ผิวถนน ยางรถยนต์ทุกชนิดจะมีดอกยาง ยกเว้นยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันทางเรียบและความเร็วสูง ที่พื้นถนนต้องแห้ง ซึ่งยางประเภทนี้เรียกว่า สลิ้ก (Slick)
ร่องยางที่ตื้น (ดอกยางหมด) หรือที่เรียกกันว่า ดอกยางโล้น จะทำให้ยางนั้นรีดน้ำได้น้อยลงและลื่นเมื่อเจอสภาพถนนที่เปียกหรือฝนตก เพราะร่องยางนั้นมีไว้เพื่อรีดน้ำ โดยหากมีร่องยางที่ตื้นน้ำที่แทรกอยู่ระหว่างหน้ายางกับพื้นถนน จะทำให้ผิวสัมผัสหน้ายางกับพื้นถนนลดลง ซึ่งเมื่อวิ่งก็จะเกิดอาการลื่นไถล แต่เมื่อวิ่งในถนนที่แห้งและแดดจัด จะวิ่งได้ดีกว่าเพราะยางมีหน้าสัมผัสพื้นถนนมากกว่า ดอกยางที่ดีควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 3 มม. ซึ่งขึ้นอยู่กับความลึกของน้ำบนผิวถนนและความเร็วของรถด้วยส่วนอายุของยางไม่ควรเกิน 5 ปี นับจากวันที่ผลิต หากครบหรือเกินควรรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัย ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีการผลิตยางของดีสโตน ได้คิดค้นการออกแบบดอกยางตามวัตถุประสงค์การใช้งานของรถยนต์แต่ละประเภทที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ดอกยางแต่ละประเภทมีความสัมพันธ์กับการยึดเกาะถนน การรีดน้ำ การสลัดดินโคลน การตะกุยปีนป่าย รวมถึงเรื่องของเสียงรบกวนอีกด้วย
เมื่อเข้าใจลักษณะดอกยางรถยนต์แล้ว คุณก็ควรหมั่นตรวจสอบดอกยางรถยนต์ของคุณให้พร้อมใช้งานทุกสถานการณ์
หน้าที่เข้าชม | 676,198 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 370,872 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 พ.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 2 ก.ย. 2568 |